The Interview (2014) บ่มแผนบ้าไปฆ่าผู้นำ
VIDEO
เรื่องย่อ : The Interview (2014) บ่มแผนบ้าไปฆ่าผู้นำ
ดูหนัง The Interview (2014)
รีวิวภาพยนตร์
The Interview เป็นภาพยนตร์คอมเมดี้ที่มีความขบขันและเสียดสีทางการเมือง ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยผู้กำกับ Seth Rogen และ Evgeny Alden ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวของ Dave Skylark (รับบทโดย James Franco) และผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ Aaron Rapoport (รับบทโดย Seth Rogen) ที่ได้รับภารกิจจาก CIA ให้ไปสัมภาษณ์ผู้นำเกาหลีเหนือ Kim Jong-un (รับบทโดย Randall Park) ซึ่งทั้งคู่ต้องจัดการกับสถานการณ์ที่ท้าทายและอันตรายเมื่อพวกเขาได้รับคำสั่งให้ลอบฆ่าผู้นำเกาหลีเหนือในระหว่างการสัมภาษณ์
นักแสดงในเรื่อง
- James Franco รับบทเป็น Dave Skylark
- Seth Rogen รับบทเป็น Aaron Rapoport
- Randall Park รับบทเป็น Kim Jong-un
- Lizzy Caplan รับบทเป็น Sook
- Timothy Simons รับบทเป็น Agent Lacey
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
คะแนน IMDB ของ The Interview อยู่ที่ 6.5/10 ขณะที่คะแนนจาก Rotten Tomatoes คือ 52% ซึ่งถือว่ามีความแตกต่างกันไปตามความคิดเห็นของผู้ชมและนักวิจารณ์
สรุปเนื้อเรื่อง
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Dave Skylark และ Aaron Rapoport ได้เดินทางไปยังเกาหลีเหนือเพื่อสัมภาษณ์ Kim Jong-un ซึ่งเป็นผู้นำที่มีความเป็นที่สนใจในระดับโลก ถึงแม้ว่าในเบื้องต้นพวกเขาจะมองว่านี่คือโอกาสในการสร้างชื่อเสียง แต่เมื่อ CIA ได้ขอให้พวกเขาลอบฆ่าผู้นำเกาหลีเหนือในระหว่างการสัมภาษณ์ เรื่องราวกลับเปลี่ยนไปอย่างไร้ขีดจำกัด ทั้งสองต้องเผชิญกับอันตรายและความตึงเครียดที่เกิดขึ้นจากการวางแผนที่ซับซ้อนนี้
ในระหว่างการเตรียมการสัมภาษณ์ Kim Jong-un ทั้งคู่ได้พบกับชีวิตและวัฒนธรรมของเกาหลีเหนือ รวมถึงได้รู้จักกับ Sook (รับบทโดย Lizzy Caplan) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือพวกเขาในภารกิจนี้ การเจอกันของพวกเขานำไปสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องราวทางการเมืองและการใช้ชีวิตในประเทศซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาคิด
เมื่อถึงวันสัมภาษณ์และการดำเนินการตามแผน ภาพยนตร์จะพาผู้ชมเข้าสู่ช่วงที่ตึงเครียดและเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน โดยมีการผสมผสานระหว่างการเสียดสีทางการเมืองและการแสดงออกของตัวละครที่สร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชม แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของการเมืองโลกในปัจจุบัน
โดยรวมแล้ว The Interview เป็นภาพยนตร์ที่สร้างความคิดและความสนุกสนานในเวลาเดียวกัน มันทำให้ผู้ชมต้องคิดเกี่ยวกับผลกระทบของการแสดงออกและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างมีเสน่ห์ และแม้ว่ามันจะถูกวิจารณ์อย่างมากในขณะออกฉาย แต่ก็ถือเป็นผลงานที่น่าสนใจในวงการภาพยนตร์คอมเมดี้