The House That Jack Built (2018) บรรยายไทยแปล
VIDEO
null 
เรื่องย่อ : The House That Jack Built (2018) บรรยายไทยแปล
ดูหนัง The House That Jack Built
รีวิวและสปอย
The House That Jack Built เป็นภาพยนตร์แนวจิตวิทยาและสยองขวัญที่กำกับโดย ลาร์ส ฟอน แทรียร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการสร้างสรรค์งานที่มีความท้าทายและสร้างความขัดแย้งในวงการภาพยนตร์ เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ แจ็ค (รับบทโดย แมตต์ ดีลอน) ชายผู้มีความสามารถทางด้านสถาปัตยกรรม แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่มีความผิดปกติทางจิตใจ
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อแจ็คเล่าให้ผู้ฟังที่เป็นเสียงของ เวอร์จิเนีย (รับบทโดย บริดเจ็ต ฟอน แทรียร์) ซึ่งเป็นตัวแทนของเสียงในใจเขาเกี่ยวกับการฆาตกรรมที่เขาทำมาทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็นหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความมืดมนภายในจิตใจของเขา การฆาตกรรมที่ทำไปนั้นมีทั้งการสร้างสรรค์และการแสดงออกถึงความรุนแรงที่มากเกินไป
ภาพยนตร์นี้ไม่ได้เพียงแค่เล่าเรื่องการฆาตกรรม แต่ยังมีการสำรวจลึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนที่มีปัญหาทางจิตและสังคมที่พวกเขาอาศัยอยู่ แจ็คมักจะมีการสนทนากับเสียงในใจของเขา ซึ่งสะท้อนถึงความขัดแย้งภายในตัวเอง ความพยายามในการสร้างผลงานที่สมบูรณ์แบบของเขา ได้สร้างการตัดสินใจที่นำไปสู่การกระทำที่โหดร้าย และในที่สุดเขาก็พบว่าความพยายามเหล่านั้นกลับนำไปสู่ความล่มสลายของตัวตนเขาเอง
ภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยสัญลักษณ์และการตีความที่เปิดกว้าง ซึ่งทำให้ผู้ชมต้องคิดและวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความหมายของชีวิตและการกระทำของมนุษย์ แม้ว่าจะมีความรุนแรงและเนื้อหาที่อาจจะทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็อาจทำให้พวกเขาคิดถึงความจริงของความเป็นมนุษย์และการต่อสู้ภายในจิตใจ
นักแสดงในเรื่อง
- แมตต์ ดีลอน รับบทเป็น แจ็ค
- บริดเจ็ต ฟอน แทรียร์ รับบทเป็น เสียงในใจ
- อูม่า เธอร์แมน รับบทเป็นเหยื่อ
- เกรค คินเนียร์ รับบทเป็นเหยื่อ
- ซูซานน์ วูซิเซอร์ รับบทเป็นเหยื่อ
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
คะแนน IMDB: 6.8/10
คะแนน Rotten Tomatoes: 60% (จากผู้วิจารณ์) และ 49% (จากผู้ชม)
สรุป
The House That Jack Built เป็นภาพยนตร์ที่ท้าทายและทำให้ผู้ชมมีความคิดที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับจิตใจมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านมืดของมัน การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและการแสดงที่น่าประทับใจจากนักแสดงทำให้ภาพยนตร์นี้กลายเป็นผลงานที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจในแนวสยองขวัญและจิตวิทยา แม้ว่าจะมีเนื้อหาที่อาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจ แต่การสำรวจความมืดมิดในจิตใจมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์นี้มีความน่าสนใจและมีคุณค่าในแบบที่ไม่เหมือนใคร
