The Green mile ปาฏิหาริย์แดนประหาร

VIDEO

×
ปีที่ฉาย:
Thai NA IMDb 9 คุณภาพ : FullHD
The Green mile ปาฏิหาริย์แดนประหาร

เรื่องย่อ : The Green mile ปาฏิหาริย์แดนประหาร

ดูหนัง The Green Mile ปาฏิหาริย์แดนประหาร

รีวิวและสปอย

The Green Mile ปาฏิหาริย์แดนประหาร เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายของ สตีเฟน คิง ที่เล่าเรื่องราวในปี 1935 ที่เกิดขึ้นในเรือนจำแห่งหนึ่งในรัฐหลุยเซียน่า โดยมีตัวเอกคือ จอห์น คอฟฟี่ (รับบทโดย ไมเคิล คลาร์ก ดังกัน) ผู้ต้องโทษประหารชีวิตในข้อหาฆ่าคน แต่เขากลับมีพลังพิเศษในการรักษาโรคและช่วยเหลือผู้อื่น เรื่องราวถูกเล่าผ่านมุมมองของ พอล เอ็ดเจอร์ค (รับบทโดย ทอม แฮงค์ส) หัวหน้าผู้คุมที่มีภารกิจดูแลนักโทษในแดนประหาร

ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับความอยุติธรรมในระบบกฎหมาย แต่ยังสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจอห์น คอฟฟี่ แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจและความเห็นอกเห็นใจต่อผู้คนรอบข้าง

การเดินเรื่องเป็นไปอย่างช้าๆ แต่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่เข้มข้น ตัวละครมีความลึกซึ้งและมีเสน่ห์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันและเข้าใจความรู้สึกของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีฉากที่สร้างความตึงเครียดและความสะเทือนใจอย่างมาก โดยเฉพาะฉากที่เกี่ยวกับการประหารชีวิต

นักแสดงในเรื่อง

  • ทอม แฮงค์ส รับบทเป็น พอล เอ็ดเจอร์ค
  • ไมเคิล คลาร์ก ดังกัน รับบทเป็น จอห์น คอฟฟี่
  • เดวิด มอร์ส รับบทเป็น บร็อคตัน มิลล์ส
  • บอนนี่ ฮันต์ รับบทเป็น แพทริเซีย
  • เจมส์ ครอมเวลล์ รับบทเป็น พ่อของจอห์น
  • แดน แฮร์ริส รับบทเป็น จอห์น คอฟฟี่

คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes

คะแนน IMDB: 8.6/10

คะแนน Rotten Tomatoes: 89% (Tomatometer), 95% (Audience Score)

สรุป

The Green Mile เป็นภาพยนตร์ที่โดดเด่นด้วยการเล่าเรื่องที่มีความเข้มข้นและซับซ้อน ผ่านการสร้างตัวละครที่มีความลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความยากลำบากและความท้าทายที่ตัวละครต้องเผชิญ แม้จะอยู่ในสภาพที่เลวร้าย แต่ยังคงมีความหวังและความรักที่สามารถเกิดขึ้นได้

การแสดงของนักแสดงทุกคนในเรื่องนี้ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ ไมเคิล คลาร์ก ดังกัน ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจต่อชะตากรรมของจอห์น คอฟฟี่ นอกจากนี้ยังมีการสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมกับเรื่องราว ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับอารมณ์ที่หลากหลาย

โดยรวมแล้ว The Green Mile เป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชม ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจเรื่องราวของความยุติธรรม ความรัก และความเสียสละ ซึ่งยังคงมีความเกี่ยวข้องกับสังคมในปัจจุบัน