The Experiment คุกทมิฬ (2010)
VIDEO
5 
เรื่องย่อ : The Experiment คุกทมิฬ (2010)
ดูหนัง The Experiment คุกทมิฬ (2010)
บทนำ
The Experiment หรือในชื่อไทยว่า คุกทมิฬ เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี 1971 โดยมีการทดลองที่ชื่อว่า Stanford prison experiment ที่ทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับจิตวิทยาของมนุษย์ ภาพยนตร์นี้นำเสนอเรื่องราวที่เข้มข้นและดราม่าผ่านการแสดงของนักแสดงที่มีชื่อเสียง ผู้กำกับ Paul Scheuring ได้สร้างผลงานที่ดึงดูดผู้ชมและได้สร้างความตื่นเต้นตั้งแต่ต้นจนจบ
นักแสดงในเรื่อง
- Adrien Brody รับบทเป็น Travis
- Forest Whitaker รับบทเป็น Warden
- Cam Gigandet รับบทเป็น Barris
- Scott Eastwood รับบทเป็น Channing
- Katherine Waterston รับบทเป็น Lisa
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
คะแนน IMDB ของภาพยนตร์ The Experiment อยู่ที่ประมาณ 6.4/10 โดยคะแนนนี้แสดงให้เห็นถึงการรับรู้ของผู้ชมและนักวิจารณ์ที่มีต่อภาพยนตร์ ขณะที่คะแนน Rotten Tomatoes อยู่ที่ประมาณ 30% ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีผู้วิจารณ์จำนวนไม่น้อยที่ไม่พอใจกับผลงานนี้
สรุปเนื้อเรื่อง
เรื่องราวของ The Experiment เริ่มต้นด้วยการคัดเลือกกลุ่มชายหนุ่มจำนวน 26 คนเพื่อเข้าร่วมการทดลองทางจิตวิทยา โดยผู้เข้าร่วมจะต้องแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มนักโทษและกลุ่มผู้คุม โดยการทดลองนั้นออกแบบมาเพื่อดูว่าพฤติกรรมของมนุษย์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อได้รับบทบาทที่แตกต่างกัน การทดลองเริ่มต้นอย่างเรียบร้อย แต่ไม่นานก็เริ่มเกิดความตึงเครียดและความรุนแรงเกิดขึ้นภายในคุกที่ถูกจำลองขึ้น เมื่อผู้คุมเริ่มใช้ความรุนแรงและอำนาจของตนในการควบคุมผู้ถูกจำคุก และผู้ถูกจำคุกก็เริ่มต่อต้านการกระทำของผู้คุม การทดลองนี้จึงกลายเป็นเรื่องราวที่เข้มข้นและน่าสนใจ โดยนำเสนอปัญหาของอำนาจ, ความเครียด, และจิตวิทยาของมนุษย์ที่หลากหลาย
ในระหว่างที่ภาพยนตร์ดำเนินไป ผู้ชมจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของตัวละครหลายตัว รวมถึงการแสดงความเป็นมนุษย์ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ทำให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับจริยธรรมในการทดลองและพฤติกรรมของมนุษย์เมื่ออยู่ภายใต้ความกดดัน ภาพยนตร์นี้จึงเป็นการสะท้อนถึงความเข้มข้นของจิตใจมนุษย์และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์ถูกกดดันด้วยอำนาจ
ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์
The Experiment ไม่เพียงแต่เป็นภาพยนตร์ที่ให้ความบันเทิง แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงปัญหาทางสังคมและจิตวิทยาที่สำคัญ โดยมันทำให้ผู้ชมตั้งคำถามเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์และพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้คิดวิเคราะห์ถึงความแตกต่างระหว่างบทบาทที่เราเล่นในชีวิตประจำวัน และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเราได้รับอำนาจหรือถูกกดดันในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
