Snowden (2016) สโนว์เดน อัจฉริยะจารกรรมเขย่ามหาอำนาจ

VIDEO

×
ปีที่ฉาย:
Soundtrack(T) NA IMDb 7.3 คุณภาพ : FullHD
Snowden (2016) สโนว์เดน อัจฉริยะจารกรรมเขย่ามหาอำนาจ

เรื่องย่อ : Snowden (2016) สโนว์เดน อัจฉริยะจารกรรมเขย่ามหาอำนาจ

ดูหนัง Snowden (2016) สโนว์เดน อัจฉริยะจารกรรมเขย่ามหาอำนาจ

บทนำ

“Snowden” เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่ของ หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) ที่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเฝ้าระวังของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีการใช้เทคโนโลยีในการสอดแนมประชาชนทั่วไป ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกกำกับโดย โอลิเวอร์ สโตน และนำแสดงโดย โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิทต์ ในบทสโนว์เดนเอง พร้อมด้วยนักแสดงนำอีกหลายคนที่มีผลงานเด่นในวงการภาพยนตร์

นักแสดงในเรื่อง

  • โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิทต์ รับบทเป็น เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน
  • ชูเฮย์ อุซุนะ รับบทเป็น ลินด์เซย์ มิลล์
  • รีส วิเธอร์สปูน รับบทเป็น แกรี่ มิลล์
  • นิโคลัส เคจ รับบทเป็น ลินด์ซีย์
  • ทอม วิลคินสัน รับบทเป็น รัสเซลล์

คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes

คะแนน IMDB: 7.3/10

คะแนน Rotten Tomatoes: 61% (จากการให้คะแนนของนักวิจารณ์) และ 67% (จากผู้ชม)

สรุปเนื้อเรื่อง

“Snowden” เล่าเรื่องราวของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ที่ทำงานใน NSA และได้มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลและโปรแกรมที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้ในการสอดแนมประชาชน สโนว์เดนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับการเฝ้าระวังนี้ ซึ่งทำให้เขาตัดสินใจที่จะเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ต่อสาธารณะ โดยการทำเช่นนี้ เขาเผชิญกับความเสี่ยงทั้งในด้านความปลอดภัยและอนาคตของตนเอง

ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่จะนำเสนอเรื่องราวของสโนว์เดน แต่ยังสำรวจผลกระทบที่มาจากการเปิดเผยข้อมูลนี้ต่อสังคมและรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสิทธิมนุษยชนและความเป็นส่วนตัว สโนว์เดนต้องเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างความรักและความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมและตนเอง เขาไม่เพียงเป็นเพียงคนที่เปิดเผยข้อมูล แต่ยังเป็นคนที่ต้องต่อสู้กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในขณะเดียวกัน

การถ่ายทำภาพยนตร์มีการใช้เทคนิคที่ทันสมัยเพื่อให้ผู้ชมรู้สึกถึงความตึงเครียดและความสำคัญของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับการเฝ้าระวังอย่างละเอียด ทำให้ผู้ชมได้เข้าใจถึงวิธีการที่รัฐบาลใช้ในการสอดแนมประชาชน

โดยรวมแล้ว “Snowden” เป็นภาพยนตร์ที่มีความสำคัญและมีคุณค่า ทั้งในด้านของการสะท้อนปัญหาสังคมเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและสิทธิมนุษยชน รวมถึงการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบของบุคคลต่อข้อมูลที่มีอำนาจ และยิ่งไปกว่านั้น มันยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้พิจารณาถึงความดีและความชั่วในยุคที่เทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวัน