Shrek the Third (2007) เชร็ค 3

VIDEO

×
ปีที่ฉาย:
Thai NA IMDb 6.2 คุณภาพ : HD
Shrek the Third (2007) เชร็ค 3

เรื่องย่อ : Shrek the Third (2007) เชร็ค 3

ดูหนัง Shrek the Third (2007)

รีวิวและสปอย

“Shrek the Third” เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่สร้างขึ้นในปี 2007 โดยเป็นภาคที่สามในชุดภาพยนตร์ “Shrek” ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ชมทั่วโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงติดตามชีวิตของเชร็ค (Shrek) ที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าชายและต้องรับผิดชอบในการปกครองอาณาจักรฟาร์ควูด (Far Far Away) หลังจากการจากไปของกษัตริย์ เฟอรดินานด์ (Ferdinand) ซึ่งเป็นพ่อของเจ้าหญิงฟีโอน่า (Princess Fiona) โดยภารกิจหลักในภาคนี้คือการหาผู้สืบทอดเพื่อสืบสานบัลลังก์

ในระหว่างการเดินทาง เชร็คและเพื่อนรักอย่างพ donkey (โดนกี้) และพูช (Puss in Boots) ต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ และการเผชิญหน้ากับตัวร้ายอย่างอาร์ที (Arthur) หรือที่เรียกว่า “อาร์ตี้” ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเชร็ค โดยอาร์ตี้ยังเป็นวัยรุ่นที่ไม่มั่นใจในตัวเองและต้องการค้นหาตนเองในโลกที่เต็มไปด้วยความกดดัน

ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่จะมีเสียงหัวเราะและความสนุกสนาน แต่ยังได้สื่อสารถึงความสำคัญของการค้นหาตัวตนและการรับผิดชอบต่อครอบครัว นอกจากนี้ เรื่องราวยังมีการสอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับการเป็นผู้นำและการยอมรับในตัวเอง ซึ่งทำให้ “Shrek the Third” กลายเป็นภาพยนตร์ที่มีคุณค่าไม่เพียงแต่สำหรับเด็กๆ แต่ยังสำหรับผู้ใหญ่ด้วย

นักแสดงในเรื่อง

ภาพยนตร์ “Shrek the Third” มีนักแสดงเสียงที่มีชื่อเสียงมากมาย ประกอบด้วย:

  • Mike Myers – ให้เสียงเชร็ค
  • Cameron Diaz – ให้เสียงเจ้าหญิงฟีโอน่า
  • Eddie Murphy – ให้เสียงโดนกี้
  • Antonio Banderas – ให้เสียงพูช (Puss in Boots)
  • Justin Timberlake – ให้เสียงอาร์ที (Arthur)
  • John Cleese – ให้เสียงกษัตริย์เฟอรดินานด์
  • Eric Idle – ให้เสียงโดนกี้ของอาร์ตี้

คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes

“Shrek the Third” ได้รับคะแนนจาก IMDB อยู่ที่ 6.1/10 ขณะที่ Rotten Tomatoes ให้คะแนน 38% สำหรับคะแนนจากนักวิจารณ์ และ 57% สำหรับคะแนนจากผู้ชม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์นี้อาจไม่เป็นที่ชื่นชอบในระดับเดียวกับสองภาคแรก แต่ยังคงมีความสนุกสนานและความบันเทิงในแบบของมัน

สรุป

โดยรวมแล้ว “Shrek the Third” เป็นภาพยนตร์ที่มีความบันเทิงและความสนุกสนาน แม้ว่าจะไม่ได้รับเสียงชื่นชมมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับสองภาคแรก แต่ก็ยังสามารถนำเสนอเรื่องราวที่มีความสำคัญเกี่ยวกับการเติบโตและการค้นหาตัวตนได้อย่างดี ด้วยการแสดงเสียงที่ยอดเยี่ยมและการสร้างโลกที่เต็มไปด้วยสีสันและอารมณ์ขัน ภาพยนตร์นี้ยังคงเป็นที่รักของผู้ชมมากมาย และถือเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของแฟนๆ “Shrek” อย่างแน่นอน