Operation Hyacinth (2021) ปฏิบัติการไฮยาซินธ์
VIDEO
เรื่องย่อ : Operation Hyacinth (2021) ปฏิบัติการไฮยาซินธ์
ดูหนัง Operation Hyacinth (2021) ปฏิบัติการไฮยาซินธ์
รีวิวและสปอย
Operation Hyacinth เป็นภาพยนตร์แนวอาชญากรรมและดราม่าจากโปแลนด์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 โดยมุ่งเน้นไปที่การฆาตกรรมของชายรักชายที่เกิดขึ้นในกรุงวอร์ซอ การสืบสวนนี้ไม่เพียงแต่จะเปิดเผยเรื่องราวของการฆาตกรรม แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ของชาว LGBTQ+ ในสังคมที่มีการกดขี่และอคติ
ภาพยนตร์เริ่มต้นด้วยการค้นพบศพของผู้ชายคนหนึ่งในบริเวณที่ถูกมองข้าม โดยมีตำรวจหนุ่มชื่อ “มิเชล” (รับบทโดย ยาน บูเรส) ที่รับผิดชอบในการสอบสวนคดีนี้ มิเชลพบว่าการฆาตกรรมนี้มีความเกี่ยวข้องกับวงการ LGBTQ+ และเขาต้องเผชิญกับอคติของสังคมเมื่อพยายามหาความจริงและจับคนร้าย
ตลอดการสืบสวน มิเชลต้องทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่น ๆ ซึ่งบางคนมีทัศนคติที่ไม่เป็นมิตรต่อชาว LGBTQ+ ทำให้เขาต้องต่อสู้ไม่เพียงกับอาชญากรรม แต่ยังต้องต่อสู้กับความไม่เข้าใจและการกดขี่ในที่ทำงานของเขาเอง นอกจากนี้ เขายังพบกับความรักและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างการสืบสวน
การเล่าเรื่องใน Operation Hyacinth ทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงความเข้มข้นของอารมณ์และการต่อสู้ของตัวละครที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย นอกจากเนื้อเรื่องที่น่าสนใจแล้ว การถ่ายทำและการออกแบบฉากก็มีความโดดเด่น สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมกับยุคสมัยและเรื่องราวที่ต้องการสื่อ
นักแสดงในเรื่อง
นักแสดงหลักของ Operation Hyacinth ได้แก่:
– ยาน บูเรส รับบทเป็น มิเชล
– บาร์บาร่า บอรอว์สก้า รับบทเป็น โจอันนา
– พอรัค บูโรวสกี้ รับบทเป็น สตีฟ
– แม็กซิมิลเลียน ชีมโควิช รับบทเป็น อันเดรจ
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
Operation Hyacinth ได้รับคะแนนจาก IMDB อยู่ที่ประมาณ 6.5/10 ซึ่งถือว่าค่อนข้างดีสำหรับหนังแนวนี้ ขณะที่ Rotten Tomatoes ให้คะแนนอยู่ที่ 75% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชมและนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ชื่นชอบภาพยนตร์นี้
สรุป
Operation Hyacinth เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวของการต่อสู้และการสืบสวนในสังคมที่มีการกดขี่และอคติ ภาพยนตร์ไม่เพียงแต่จะให้ความบันเทิง แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาทางสังคมที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ด้วยการแสดงที่เข้มข้นและเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นและมีส่วนร่วมในเรื่องราวที่เกิดขึ้น
การนำเสนอเรื่องราวของชาว LGBTQ+ ในยุคที่มีการกดขี่เป็นสิ่งที่สำคัญ และ Operation Hyacinth ได้ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในด้านการเล่าเรื่องและการสร้างความเข้าใจในประเด็นที่ซับซ้อน ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องราวของความรัก การต่อสู้ และความยุติธรรมในสังคม.