Kokoda (2006) โคโคดา สมรภูมิเลือด
VIDEO
8
คุณภาพ :
เรื่องย่อ : Kokoda (2006) โคโคดา สมรภูมิเลือด
ดูหนัง โคโคดา สมรภูมิเลือด (Kokoda)
รีวิวและสปอย
โคโคดา สมรภูมิเลือด (Kokoda) เป็นภาพยนตร์สงครามที่สร้างจากเหตุการณ์จริงในสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเล่าถึงการต่อสู้ของทหารออสเตรเลียในสมรภูมิ Kokoda Track ประเทศปาปัวนิวกินี ภาพยนตร์นี้มุ่งเน้นไปที่การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของกลุ่มทหารที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายของสงคราม จิตใจที่แข็งแกร่งของมนุษย์ และการเสียสละเพื่อประเทศชาติ
เนื้อเรื่องเริ่มต้นจากการนำนักรบชาวออสเตรเลียที่ถูกส่งไปยัง Kokoda Track ซึ่งมีภูมิประเทศที่ยากลำบากและสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย กลุ่มทหารนี้ต้องต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นที่มีจำนวนมากและได้เปรียบในพื้นที่ โดยที่พวกเขาต้องเผชิญกับความตาย ความกลัว และความไม่แน่นอนในทุกๆ วัน
ภาพยนตร์ถ่ายทอดความรู้สึกของการต่อสู้ที่ไม่เพียงแค่เป็นการสู้รบทางกายภาพ แต่ยังเป็นการต่อสู้ทางจิตใจที่ท้าทายพวกเขาให้ต้องคิดและทำในสิ่งที่เหนือความสามารถของมนุษย์ ในระหว่างที่พวกเขาต้องรับมือกับความเครียดและการสูญเสียคนที่รัก แต่ละตัวละครได้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและความเป็นมนุษย์ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด
นักแสดงในเรื่อง
ใน โคโคดา สมรภูมิเลือด (Kokoda) มีนักแสดงที่น่าสนใจหลายคน อาทิเช่น:
- Jack Finsterer รับบทเป็น Private “Sarge” McDonald
- Luke Ford รับบทเป็น Private “Worm” O’Leary
- Robert Taylor รับบทเป็น Captain “H” Hargreaves
- Geoffrey Rush รับบทเป็น Sergeant “Bobby” McDonald
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
Kokoda ได้รับคะแนนจาก IMDB อยู่ที่ 6.5/10 ซึ่งเป็นคะแนนที่แสดงถึงความนิยมและคุณภาพของภาพยนตร์นี้ในหมู่ผู้ชม ส่วนคะแนนจาก Rotten Tomatoes อยู่ที่ 70% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจจากนักวิจารณ์และผู้ชม
สรุป
โดยรวมแล้ว โคโคดา สมรภูมิเลือด (Kokoda) เป็นภาพยนตร์ที่ทรงพลังและสะท้อนให้เห็นถึงความจริงของสงครามที่มีทั้งความโหดร้ายและความกล้าหาญของมนุษย์ ภาพยนตร์นี้มีการสร้างสรรค์ที่ดี ทั้งในด้านการถ่ายทำ การแสดง และเนื้อเรื่องที่ทำให้ผู้ชมตระหนักถึงความเสียสละของทหารที่ต้องต่อสู้เพื่อชาติ ในขณะที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากและความตาย
หากคุณเป็นแฟนของภาพยนตร์สงครามหรือชื่นชอบเรื่องราวที่มีพื้นฐานจากประวัติศาสตร์ โคโคดา สมรภูมิเลือด (Kokoda) ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด เพราะมันไม่เพียงแต่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของสงคราม แต่ยังเป็นการสำรวจจิตใจของมนุษย์ในเวลาที่วุ่นวายที่สุด
