In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale (2007) ศึกนักรบกองพันปีศาจ
VIDEO
9 
เรื่องย่อ : In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale (2007) ศึกนักรบกองพันปีศาจ
ดูหนัง In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale
รีวิวและสปอย
“In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale” เป็นภาพยนตร์แนวแฟนตาซี-ผจญภัยที่ถูกกำกับโดย ยูโบล และออกฉายในปี 2007 โดยสร้างจากเกมยอดนิยม “Dungeon Siege” ภาพยนตร์นี้เล่าเรื่องราวของ เฟลิกซ์ (รับบทโดย เจสัน สเตธัม) ชาวนาที่ต้องต่อสู้กับกองทัพปีศาจหลังจากที่ครอบครัวของเขาถูกจับไปโดย มอร์กาล (รับบทโดย เลสลี่ บิบบ์) ผู้นำของปีศาจแห่งอาณาจักรทมิฬ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเฟลิกซ์และภรรยาของเขา เอมิลี่ (รับบทโดย เจนนิเฟอร์ มัลดอนาโด) ถูกโจมตีจากกองทัพของมอร์กาล ขณะที่เฟลิกซ์พยายามที่จะช่วยเธอ เขาก็พบว่าตัวเองต้องเข้าร่วมการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่เพื่อช่วยเหลืออาณาจักรของเขาและกอบกู้ภรรยาของเขา
ในระหว่างการเดินทางของเขา เฟลิกซ์ได้พบกับ ผู้วิเศษ (รับบทโดย จอช โชว์) และ นักรบ (รับบทโดย แบรนดอน ลี) ที่ช่วยเขาในการต่อสู้กับมอร์กาล และต่อสู้เพื่อกอบกู้อาณาจักรให้กลับมาเป็นปกติ
นักแสดงในเรื่อง
- เจสัน สเตธัม เป็น เฟลิกซ์
- เจนนิเฟอร์ มัลดอนาโด เป็น เอมิลี่
- เลสลี่ บิบบ์ เป็น มอร์กาล
- จอช โชว์ เป็น ผู้วิเศษ
- แบรนดอน ลี เป็น นักรบ
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
ภาพยนตร์ “In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale” ได้รับคะแนน IMDB ที่ 3.8/10 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจของผู้ชมและนักวิจารณ์ต่อเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องที่ไม่ค่อยสมจริง
ในขณะเดียวกัน คะแนนจาก Rotten Tomatoes อยู่ที่ 4% ซึ่งถือว่าต่ำมาก แสดงถึงความล้มเหลวในการสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม
สรุป
ภาพยนตร์ “In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale” นับว่าเป็นความพยายามในการสร้างสรรค์เรื่องราวแฟนตาซีที่น่าสนใจ แต่กลับไม่สามารถทำได้ตามความคาดหวัง เนื้อเรื่องที่ซับซ้อนและการพัฒนาตัวละครที่ไม่เพียงพอทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่เชื่อมโยงกับตัวละครหลัก
ในด้านการแสดง นักแสดงหลักอย่างเจสัน สเตธัม แม้จะมีการแสดงที่ดี แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ภาพยนตร์มีคุณภาพที่ดีขึ้นได้ ในขณะที่สเปเชียลเอฟเฟกต์และการออกแบบฉากต่างๆ ก็ไม่สามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้อย่างที่ควรจะเป็น
โดยรวมแล้ว “In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale” เป็นภาพยนตร์ที่ถือว่าล้มเหลวในหลายด้าน ซึ่งทำให้ผู้ชมบางคนอาจรู้สึกผิดหวังและไม่แนะนำให้ดู แนะนำให้แฟนๆ ของเกม “Dungeon Siege” หรือคนที่ชอบภาพยนตร์แนวแฟนตาซีลองพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจดู
