Fahrenheit 451 (2018) ฟาเรนไฮต์ 451

เรื่องย่อ : Fahrenheit 451 (2018) ฟาเรนไฮต์ 451

ดูหนัง Fahrenheit 451

รีวิวและสปอยล์

Fahrenheit 451 (2018) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากนวนิยายคลาสสิกของเรย์ แบรดเบอรี ซึ่งเล่าเรื่องราวในอนาคตอันใกล้ที่การอ่านหนังสือถูกห้ามและผู้ที่ยังคงอ่านถูกถือเป็นอาชญากร เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ “มอนตัก” (รับบทโดย Michael B. Jordan) คือเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในการเผาหนังสือและควบคุมการกระทำผิดในสังคมที่ไร้การอ่าน เขาได้เริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เขาทำและความหมายของการมีชีวิตอยู่ในโลกที่ปราศจากความรู้และความคิดที่เป็นอิสระ

ในภาพยนตร์นี้ มอนตักต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายในตัวเอง เมื่อเขาได้พบกับ “คลาริส” (รับบทโดย Sofia Boutella) ที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับเขา เธอเป็นผู้ที่ยังคงเชื่อในความสำคัญของการอ่านหนังสือและความคิดอิสระ มอนตักเริ่มรู้สึกถึงความไม่ถูกต้องในระบบที่เขาเป็นส่วนหนึ่ง และเริ่มคิดที่จะเปลี่ยนแปลง

ภาพยนตร์นี้นำเสนอการต่อสู้ระหว่างความรู้และความโง่เขลา ผ่านทางการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ต้องการจะรักษาระบบเดิมไว้ เรื่องราวเต็มไปด้วยความตึงเครียดที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสำคัญของการมีความคิดที่เป็นอิสระ และการต่อต้านการควบคุมจากภาครัฐ

นักแสดงในเรื่อง

ภาพยนตร์ Fahrenheit 451 มีนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น:

• Michael B. Jordan รับบทเป็น Guy Montag
• Sofia Boutella รับบทเป็น Clarisse McClellan
• Michael Shannon รับบทเป็น Captain Beatty
• Laura Harrier รับบทเป็น Avasarala

คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes

ภาพยนตร์ Fahrenheit 451 ได้รับคะแนนจากผู้ชมในเว็บไซต์ IMDB อยู่ที่ 6.0/10 ซึ่งสะท้อนถึงความเห็นที่หลากหลายของผู้ชม ส่วนในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes มีคะแนนอยู่ที่ 35% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่ไม่ค่อยดีนักจากนักวิจารณ์

สรุป

ภาพยนตร์ Fahrenheit 451 (2018) ได้นำเสนอเรื่องราวที่มีความเกี่ยวข้องกับสังคมในปัจจุบัน โดยเฉพาะกับการควบคุมข้อมูลและการขาดแคลนความรู้ มันสะท้อนถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือและการมีความคิดเห็นที่เป็นอิสระ ในขณะที่ผู้ชมอาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการนำเสนอในรูปแบบภาพยนตร์ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความคิดที่อยู่เบื้องหลังนั้นมีความสำคัญและต้องได้รับการพูดถึงอย่างมาก

ด้วยการดำเนินเรื่องที่เข้มข้นและการแสดงที่น่าประทับใจของนักแสดงแต่ละคน Fahrenheit 451 จึงเป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชม แม้ว่าคะแนนจากนักวิจารณ์จะไม่สูงมากนัก แต่เนื้อหาของมันยังคงมีคุณค่าทางความคิดที่สามารถกระตุ้นให้ผู้ชมตั้งคำถามเกี่ยวกับโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่

• Facebook
• Twitter
• Line