Edge of Tomorrow ซูเปอร์นักรบดับทัพอสูร
VIDEO
เรื่องย่อ : Edge of Tomorrow ซูเปอร์นักรบดับทัพอสูร
ดูหนัง Edge of Tomorrow ซูเปอร์นักรบดับทัพอสูร
รีวิวและสปอย
Edge of Tomorrow หรือที่รู้จักกันในชื่อ ซูเปอร์นักรบดับทัพอสูร เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟแอคชั่นที่สร้างจากนิยายกราฟฟิคของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “All You Need Is Kill” โดยมีผู้กำกับคือ ดั๊ก ไลแมน และนำแสดงโดย ทอม ครูซ และ เอมิเลีย คลาร์ก เรื่องราวของภาพยนตร์เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ที่โลกต้องเผชิญกับการรุกรานของเอเลี่ยนที่เรียกว่า “มิมิกส์” ซึ่งทำให้มนุษยชาติอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่
ทอม ครูซรับบทเป็น จอห์น แคสตัน นักประชาสัมพันธ์ที่ไม่มีประสบการณ์การต่อสู้ แต่ต้องเข้าร่วมสงครามกับเหล่าทหารเพื่อหยุดยั้งการรุกรานของมิมิกส์ เมื่อเขาถูกฆ่าตายในสนามรบ เขากลับพบว่าตัวเองถูกส่งกลับไปยังจุดเริ่มต้นของวันนั้นอีกครั้ง โดยมีความสามารถในการคืนชีวิตและเรียนรู้จากความผิดพลาดในแต่ละวัน
เรื่องราวดำเนินไปในลักษณะการเดินทางของตัวละครที่ต้องปรับตัวและเรียนรู้จากการตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อที่จะเอาชนะศัตรูและช่วยมนุษยชาติให้รอดพ้นจากการทำลายล้าง ในระหว่างการต่อสู้ เขาได้พบกับ ราเจนซี่ วาเลนไทน์ (เอมิเลีย คลาร์ก) ทหารหญิงที่มีทักษะการต่อสู้ที่สูงส่ง ซึ่งช่วยเขาในการปรับตัวและวางแผนในการหยุดยั้งการรุกรานของมิมิกส์
นักแสดงในเรื่อง
- ทอม ครูซ – จอห์น แคสตัน
- เอมิเลีย คลาร์ก – ราเจนซี่ วาเลนไทน์
- บิล แพกซ์ตัน – เซอร์จันต์ ฟูลเลอร์
- เจฟ แดนเนียล – ยูจีน สโตน
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
คะแนน IMDB ของ Edge of Tomorrow อยู่ที่ 7.9/10 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการได้รับความนิยมจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ส่วนคะแนน Rotten Tomatoes อยู่ที่ 91% ซึ่งทำให้ภาพยนตร์นี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แอคชั่นที่ดีที่สุดในยุคนี้
สรุป
โดยรวมแล้ว Edge of Tomorrow หรือ ซูเปอร์นักรบดับทัพอสูร เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานระหว่างการต่อสู้ที่เข้มข้นและแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเวลาและการเรียนรู้จากความผิดพลาด ตัวละครมีการพัฒนาอย่างชัดเจน และการแสดงของทอม ครูซและเอมิเลีย คลาร์กนั้นทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงกับอารมณ์ของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง
กราฟฟิกและการสร้างสรรค์ฉากแอคชั่นนั้นยอดเยี่ยม สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้ยังมีการเสียดสีสังคมและความกลัวในอนาคตที่ทำให้ผู้ชมได้คิดตามและสะท้อนกลับไปยังชีวิตจริง Edge of Tomorrow จึงถือเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหนังแนวไซไฟและแอคชั่น