Beneath the Planet of the Apes ผจญภัยพิภพวานร
VIDEO
6 
เรื่องย่อ : Beneath the Planet of the Apes ผจญภัยพิภพวานร
ดูหนัง Beneath the Planet of the Apes ผจญภัยพิภพวานร
รีวิวและสปอยล์
Beneath the Planet of the Apes เป็นหนังภาคต่อของ Planet of the Apes ที่ออกฉายเมื่อปี 1970 โดยมีความลึกซึ้งและซับซ้อนในการเล่าเรื่องมากขึ้น ภาพยนตร์นี้เล่าถึงการค้นหาของนักบินอวกาศที่ชื่อว่า Brent (รับบทโดย James Franciscus) ที่ออกตามหานักบินอวกาศคนก่อนหน้า George Taylor (รับบทโดย Charlton Heston) ที่หายไปในโลกที่ถูกปกครองโดยวานร.
Brent พบกับนครของวานรและลองทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของพวกมัน ผ่านการต่อสู้และการเปิดเผยความจริงที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกใต้ดิน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยอยู่ร่วมกับอาวุธนิวเคลียร์ที่ยังไม่ได้ถูกทำลาย. นอกจากนี้ หนังยังมีการสำรวจแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและสงคราม รวมถึงการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในโลกที่มีการแบ่งแยกระหว่างสองเผ่าพันธุ์.
ภาพยนตร์นี้มีการใช้เทคนิคการสร้างภาพและการแสดงออกที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะการแต่งหน้าและการสร้างตัวละครวานรที่มีชีวิตชีวา และยังมีการสร้างฉากที่ดูน่าตื่นเต้นและน่ากลัว โดยเฉพาะฉากที่มีการต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างมนุษย์และวานร.
นักแสดงในเรื่อง
- James Franciscus รับบทเป็น Brent
- Charlton Heston รับบทเป็น George Taylor
- Kim Hunter รับบทเป็น Zira
- Roddy McDowall รับบทเป็น Cornelius
- Paul Williams รับบทเป็น Lucius
- Victor Buono รับบทเป็น The Mutant Leader
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
คะแนน IMDB ของ Beneath the Planet of the Apes อยู่ที่ 6.1/10 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมที่ค่อนข้างดีในหมู่ผู้ชม สำหรับคะแนน Rotten Tomatoes คะแนนอยู่ที่ 44% โดยมีความเห็นจากนักวิจารณ์ที่หลากหลาย ทำให้ภาพยนตร์นี้ได้รับการตอบรับที่ไม่ค่อยสูงเท่าที่ควร แต่ยังคงมีแฟนคลับที่ชื่นชอบในแนวคิดและความพยายามในการสร้างโลกใหม่ที่น่าสนใจ.
สรุป
Beneath the Planet of the Apes เป็นภาพยนตร์ที่สำรวจความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และวานรได้อย่างลึกซึ้ง หนังได้มีการพัฒนาตัวละครและเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ โดยมีการนำเสนอความจริงที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับมนุษย์และเทคโนโลยีที่อาจทำให้เกิดหายนะได้.
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพยนตร์จะไม่ได้รับการตอบรับจากนักวิจารณ์อย่างร้อนแรง แต่ยังคงมีความสำคัญในวงการหนังไซไฟและได้มีการสร้างแฟรนไชส์ที่ต่อเนื่องในภาคต่อไป ถึงแม้จะมีหลายปัจจัยที่อาจทำให้เรื่องราวไม่เป็นที่นิยมในมุมมองของผู้ชมบางกลุ่ม แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันมีคุณค่าทางศิลปะที่น่าศึกษา และยังคงเป็นหนึ่งในผลงานคลาสสิกที่ควรค่าแก่การชม.
