Atonement (2007) ตราบาปลิขิตรัก

VIDEO

×
ปีที่ฉาย:
Thai NA IMDb 6 คุณภาพ : HD
Atonement (2007) ตราบาปลิขิตรัก

เรื่องย่อ : Atonement (2007) ตราบาปลิขิตรัก

ดูหนัง Atonement (2007) ตราบาปลิขิตรัก

บทนำ

“Atonement” หรือในชื่อภาษาไทยว่า “ตราบาปลิขิตรัก” เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ อาอีนด์ แมคอีวาน ที่ออกฉายในปี 2007 กำกับโดย โจ ไรท์ ที่นำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความซับซ้อนของความรัก การให้อภัย และผลกระทบจากการกระทำของเรา ภาพยนตร์นี้ได้รับคำชมมากมายจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น

นักแสดงในเรื่อง

“Atonement” ได้รวบรวมทีมนักแสดงที่มีความสามารถอย่างมากมาย ได้แก่:

  • เซียร์ชา โรแนน รับบทเป็น บรอนนี ทัลลิส
  • เจมส์ แม็คอะวอย รับบทเป็น โรบี้ เทิร์นเนอร์
  • คีร่า ไนท์ลีย์ รับบทเป็น เซซิเลีย ทัลลิส
  • ดาร์ซี แชมเบอส์ รับบทเป็น บรอนนี ทัลลิส (วัยเด็ก)
  • เบนาเดตตา พอร์ซิ รับบทเป็น ลูซี่

คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes

ภาพยนตร์ “Atonement” ได้รับคะแนน 8.0/10 บน IMDB และคะแนน 83% บน Rotten Tomatoes โดยมีคะแนนจากนักวิจารณ์ที่สูงถึง 86% ถือเป็นการยืนยันถึงคุณภาพและความสามารถในการเล่าเรื่องที่เข้มข้นของภาพยนตร์นี้

สปอยล์และสรุปเนื้อเรื่อง

“Atonement” เกิดขึ้นในปี 1935 และเริ่มต้นด้วยการแนะนำให้รู้จักกับตัวละครหลัก บรอนนี ทัลลิส (เซียร์ชา โรแนน) เด็กสาวที่มีจินตนาการสูงและมักสร้างเรื่องราวแฟนตาซีขึ้นในหัวของเธอ วันหนึ่ง เธอเห็นเหตุการณ์ที่ทำให้เธอเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโรบี้ เทิร์นเนอร์ (เจมส์ แม็คอะวอย) และเซซิเลีย ทัลลิส (คีร่า ไนท์ลีย์) ซึ่งเป็นพี่สาวของเธอ

บรอนนีเข้าใจผิดว่าการกระทำของโรบี้เป็นเรื่องที่น่าสงสัย เธอจึงรายงานเรื่องนี้ต่อผู้ใหญ่ ส่งผลให้โรบี้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดและถูกตัดสินจำคุก ซึ่งทำให้ความรักระหว่างเขาและเซซิเลียต้องถูกแยกจากกัน

เมื่อเวลาผ่านไป สงครามโลกครั้งที่สองเกิดขึ้น โรบี้ได้เข้าร่วมสงครามและต่อสู้ในสนามรบ ในขณะที่เซซิเลียทำงานในโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ทั้งคู่ยังคงรักกันอยู่ แต่ความห่างไกลและความเข้าใจผิดทำให้เกิดความทุกข์ยาก

บทสรุปของภาพยนตร์นี้มีการเปิดเผยว่าบรอนนีในวัยผู้ใหญ่ (รับบทโดย โรน่า มิทเชลล์) ได้เขียนนวนิยายที่อิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อขอโทษและให้อภัยต่อสิ่งที่เธอทำในวัยเด็ก โดยในตอนจบเราจะเห็นว่าความรักและการให้อภัยนั้นสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนๆ หนึ่งได้

“Atonement” จึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวความรักที่สะเทือนใจ แต่ยังเป็นการตั้งคำถามถึงการให้อภัยและการชดใช้ต่อผลกระทบที่เกิดจากการกระทำของเรา