All the Light We Cannot See ดั่งแสงสิ้นแรงฉาน
VIDEO
กำลังเล่น: EP.01
เลือกตอน
เรื่องย่อ : All the Light We Cannot See ดั่งแสงสิ้นแรงฉาน
ดูหนัง All the Light We Cannot See ดั่งแสงสิ้นแรงฉาน
รีวิวและสปอย
All the Light We Cannot See หรือในชื่อไทยว่า ดั่งแสงสิ้นแรงฉาน เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันโดย Anthony Doerr ซึ่งได้รับรางวัล Pulitzer Prize for Fiction ในปี 2015 โดยภาพยนตร์นี้เล่าเรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ผ่านชีวิตของเด็กสาวชื่อ Marie-Laure LeBlanc และเด็กหนุ่มชื่อ Werner Pfennig ที่มีชีวิตที่แตกต่างกัน แต่กลับมีเส้นทางที่ตัดกันอย่างมีความหมาย
Marie-Laure หูหนวกตั้งแต่ยังเล็ก เธอและพ่อของเธออาศัยอยู่ในกรุงปารีส ก่อนที่สงครามจะทำให้พวกเขาต้องหลบหนีไปยังเมืองชายฝั่งแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส โดยพ่อของเธอทำงานที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ซึ่งเขาได้พาเธอไปดูสิ่งของล้ำค่าต่าง ๆ รวมถึงเพชรที่มีตำนานเกี่ยวกับความโชคร้าย
ในอีกฟากหนึ่งของเรื่อง เราได้พบกับ Werner เด็กชายที่มีพรสวรรค์ในการซ่อมวิทยุ ซึ่งถูกดึงเข้าไปในระบบการศึกษาแบบทหารของนาซี เขาต้องเผชิญกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมและการอยู่รอดในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ทั้งสองตัวละครเริ่มมีเส้นทางที่ข้ามกัน การพบกันของพวกเขาในที่สุดเป็นการเปิดเผยความหมายที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความหวัง ความรัก และการยืนหยัดในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของประวัติศาสตร์
นักแสดงในเรื่อง
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีนักแสดงที่มีชื่อเสียง ได้แก่:
- Aria Mia Loberti รับบท Marie-Laure LeBlanc
- Mark Ruffalo รับบทพ่อของ Marie-Laure
- Louis Hofmann รับบท Werner Pfennig
- John O’Neill รับบท Freidrich
- Zoë Wanamaker รับบท Madame Manec
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes
ภาพยนตร์ All the Light We Cannot See ได้รับคะแนนที่น่าพอใจในเว็บไซต์ต่าง ๆ โดย:
- คะแนน IMDb: 8.7/10 (ข้อมูล ณ ตุลาคม 2023)
- คะแนน Rotten Tomatoes: 91% (Tomatometer) และ 95% (Audience Score)
สรุป
ภาพยนตร์ All the Light We Cannot See ถ่ายทอดเรื่องราวที่ซับซ้อนและลึกซึ้งเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในช่วงสงคราม โดยมีการนำเสนอความหวังและความรักในสถานการณ์ที่เลวร้าย การตัดสลับระหว่างชีวิตของ Marie-Laure และ Werner ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับมุมมองที่แตกต่างกัน แต่ยังมีจุดร่วมในมุมมองที่สวยงามเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์
การดำเนินเรื่องและการแสดงของนักแสดงทุกคนทำให้ภาพยนตร์นี้มีความน่าติดตามและสร้างอารมณ์ที่มีความหมาย ผู้ชมจะรู้สึกถึงความตึงเครียดและความหวังที่โดดเด่นในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของประวัติศาสตร์ สรุปแล้ว All the Light We Cannot See เป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชม และเป็นการเตือนใจให้เรารู้ถึงพลังของความรักและความหวัง แม้ในยามที่มืดมนที่สุด