All Is Lost (2013) ออล อีส ลอสต์

VIDEO

×
Thai NA IMDb 8 คุณภาพ : FullHD
All Is Lost (2013) ออล อีส ลอสต์

เรื่องย่อ : All Is Lost (2013) ออล อีส ลอสต์

ดูหนัง All Is Lost (2013) ออล อีส ลอสต์

บทนำ

“All Is Lost” เป็นภาพยนตร์ที่สร้างความตึงเครียดและความรู้สึกเหงาได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านการเล่าเรื่องของชายคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับการเอาชีวิตรอดกลางมหาสมุทร โดยไม่มีการพูดคุยใด ๆ ที่ส่งผลให้ผู้ชมสัมผัสถึงความโดดเดี่ยวและความมุ่งมั่นในการอยู่รอด สร้างจากบทภาพยนตร์ที่เขียนโดย J.C. Chandor และกำกับโดยเขาเอง ภาพยนตร์นี้มีความยาวเพียง 106 นาที แต่กลับเต็มไปด้วยอารมณ์และความตึงเครียดที่ไม่หยุดนิ่ง

นักแสดงในเรื่อง

ใน “All Is Lost” มีนักแสดงเพียงคนเดียวที่รับบทนำ นั่นคือRobert Redford เขาได้แสดงออกถึงการต่อสู้กับธรรมชาติและความยากลำบากอย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ผู้ชมสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกและอารมณ์ของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง แม้จะไม่มีบทพูดมากนัก แต่การแสดงของเขาก็ทรงพลังเพียงพอที่จะทำให้เราเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เขาต้องเผชิญ

คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes

“All Is Lost” ได้รับคะแนน 7.2/10 จาก IMDB ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ส่วนคะแนนจาก Rotten Tomatoes อยู่ที่ 94% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการชื่นชมในด้านการแสดงและการกำกับ

สรุปเรื่องราว

“All Is Lost” เล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่ง (รับบทโดย Robert Redford) ที่ถูกพบในมหาสมุทรเมื่อเรือของเขาประสบอุบัติเหตุ ขณะเดินทางข้ามมหาสมุทรอินเดีย เขาต้องเผชิญกับความยากลำบากต่าง ๆ ตั้งแต่เรือที่รั่วไหลไปจนถึงพายุที่โหมกระหน่ำ ซึ่งส่งผลให้เขาต้องพยายามหาวิธีเอาชีวิตรอด โดยไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอก

ภาพยนตร์นี้มีการใช้สัญลักษณ์และภาพที่สวยงามในการเล่าเรื่อง โดยเฉพาะการใช้สีฟ้าของน้ำทะเลและท้องฟ้าที่แสดงถึงความกว้างใหญ่ของธรรมชาติที่เขาต้องเผชิญ การแสดงของ Redford ทำให้เราเห็นถึงความมุ่งมั่นและความหวังในการเอาชีวิตรอด แม้ว่าสถานการณ์จะดูสิ้นหวังก็ตาม

ตลอดทั้งเรื่อง ผู้ชมจะได้สัมผัสกับความรู้สึกอ้างว้าง และการต่อสู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดของตัวละคร การทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ “All Is Lost” แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นที่เกี่ยวกับการเอาชีวิตรอด

ในท้ายที่สุด “All Is Lost” ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวของการเอาชีวิตรอด แต่ยังเป็นการสำรวจถึงความหมายของชีวิตและความมุ่งมั่นในการมีชีวิตอยู่ แม้ว่าทุกอย่างจะดูมืดมนและสิ้นหวังก็ตาม ภาพยนตร์นี้จึงถือเป็นผลงานที่ควรค่าแก่การชม และสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ของมนุษย์กับธรรมชาติอย่างแท้จริง