True Crime (1999) วิกฤติแดนประหาร

VIDEO

×
ปีที่ฉาย:
Thai NA IMDb 4 คุณภาพ : HD
True Crime (1999) วิกฤติแดนประหาร

เรื่องย่อ : True Crime (1999) วิกฤติแดนประหาร

ดูหนัง True Crime (1999) วิกฤติแดนประหาร

บทนำ

True Crime (1999) เป็นภาพยนตร์แนวอาชญากรรมที่สร้างจากเรื่องจริง โดยมีนักแสดงนำคือ คลินต์ อีสต์วูด ที่รับบทเป็นสื่อมวลชนที่พยายามเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้น และการพิจารณาคดีที่ไม่ยุติธรรม ภาพยนตร์นี้นอกจากจะมีเนื้อหาที่เข้มข้นยังมีการสะท้อนถึงปัญหาทางสังคมและความยุติธรรมในระบบกฎหมายของอเมริกา

นักแสดงในเรื่อง

  • คลินต์ อีสต์วูด รับบทเป็น สตีฟ เอเวอรี่
  • อีฟ แลงก์เลย์ รับบทเป็น จูดี้
  • เจมส์ วูดส์ รับบทเป็น สตีฟ ลอว์เรนซ์
  • แดเนียล บรูห์ล รับบทเป็น โจนาธาน
  • ลอเรน ดอว์สัน รับบทเป็น แคทเธอรีน

คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes

คะแนน IMDB ของ True Crime คือ 6.6/10 ขณะที่คะแนนจาก Rotten Tomatoes อยู่ที่ประมาณ 53% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์นี้ได้รับการตอบรับที่หลากหลายจากผู้ชมและนักวิจารณ์

สรุปและสปอยล์

เนื้อเรื่องของ True Crime เริ่มต้นที่ สตีฟ เอเวอรี่ (คลินต์ อีสต์วูด) นักข่าวที่ทำงานให้กับหนังสือพิมพ์ในแคลิฟอร์เนีย เขาได้รับมอบหมายให้เขียนเรื่องเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในคดีฆาตกรรมที่เขาอ้างว่าเขาไม่ได้ทำ สตีฟเริ่มทำการสอบสวนและพบว่ามีหลักฐานหลายอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าชายผู้ถูกตัดสินอาจจะเป็นผู้บริสุทธิ์

ตลอดการสอบสวนของเขา สตีฟได้พบกับครอบครัวของผู้ต้องหาและได้รู้จักกับความทุกข์ยากของพวกเขา เขายังได้พบกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ รวมถึงตำรวจและทนายความที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลายคนเริ่มเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่

เมื่อใกล้ถึงวันประหารชีวิต สตีฟต้องเร่งทำงานเพื่อเปิดเผยหลักฐานใหม่ที่อาจช่วยชีวิตชายผู้นั้น เขาต่อสู้กับอุปสรรคทั้งจากระบบกฎหมายและการต่อต้านจากผู้มีอำนาจ เขายังต้องพบกับความขัดแย้งภายในใจของตนเองเกี่ยวกับวิธีการทำงานของเขา และความหมายของความยุติธรรม

ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่เสนอเนื้อหาที่เข้มข้นเกี่ยวกับการพิจารณาคดี แต่ยังสะท้อนถึงเรื่องราวของมนุษย์ ความเป็นจริงของการสู้ชีวิต และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม โดยเฉพาะในระบบกฎหมายที่มีข้อบกพร่อง

ในที่สุด สตีฟสามารถเปิดเผยความจริงได้หรือไม่? ชายผู้ถูกตัดสินจะได้รับความยุติธรรมหรือไม่? คำตอบของคำถามเหล่านี้จะทำให้ผู้ชมต้องติดตามจนถึงช่วงท้ายของภาพยนตร์

True Crime (1999) จึงเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวอาชญากรรมและต้องการเห็นการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในสังคม