The Son (2022) บรรยายไทย

VIDEO

×
ปีที่ฉาย:
Soundtrack(T) NA IMDb null คุณภาพ : FullHD
The Son (2022) บรรยายไทย

เรื่องย่อ : The Son (2022) บรรยายไทย

ดูหนัง The Son (2022)

รีวิวและสปอยเรื่อง The Son

“The Son” เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่สร้างขึ้นโดยผู้กำกับฟลอเรียน เซลเลอร์ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากผลงานที่ได้รับการยกย่องอย่าง “The Father” ภาพยนตร์นี้เน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกชายที่มีปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ โดยเนื้อเรื่องเน้นไปที่การต่อสู้ของพ่อผู้พยายามที่จะเข้าถึงลูกชายของเขา ซึ่งมีความทุกข์ทรมานจากภาวะซึมเศร้าและปัญหาส่วนตัวที่ซับซ้อน

ภาพยนตร์เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวละครหลัก นิโคลัส (รับบทโดยโฮลล์ วาซซอน) ซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นที่ต้องเผชิญกับปัญหาจากครอบครัวและสภาพแวดล้อมที่เขาอาศัยอยู่ จนกระทั่งเขาได้พบกับพ่อของเขา ปีเตอร์ (รับบทโดยฮิวจ์ แจ็คแมน) ที่พยายามจะช่วยเหลือและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกชาย แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายที่พวกเขาต้องเผชิญ

ภาพยนตร์นี้สร้างความตึงเครียดและความรู้สึกที่เข้มข้นตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อปีเตอร์พยายามที่จะเข้าใจและช่วยเหลือนิโคลัสในการต่อสู้กับความรู้สึกที่บอบช้ำของเขา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมักจะทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเจ็บปวดและความท้าทายที่ทั้งคู่ต้องเผชิญ

นักแสดงในเรื่อง

“The Son” ประกอบไปด้วยนักแสดงที่มีชื่อเสียงและมีฝีมือ โดยมีนักแสดงหลักดังต่อไปนี้:

  • ฮิวจ์ แจ็คแมน รับบท ปีเตอร์
  • โฮลล์ วาซซอน รับบท นิโคลัส
  • แลปิด ลี รับบท รอซี่
  • แอนโธนี ฮอปกินส์ รับบท เอ็ดเวิร์ด

นักแสดงแต่ละคนถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผู้ชมสามารถเชื่อมโยงกับตัวละครและเข้าใจถึงความซับซ้อนในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูก

คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes

ภาพยนตร์ “The Son” ได้รับคะแนน IMDB ที่ 6.6/10 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจสำหรับภาพยนตร์ดราม่า ในขณะที่คะแนนจาก Rotten Tomatoes อยู่ที่ 25% สำหรับคะแนนจากนักวิจารณ์ และ 59% สำหรับคะแนนจากผู้ชม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเห็นที่แตกต่างกันในแง่ของการตีความเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่อง

สรุป

โดยรวมแล้ว “The Son” เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยอารมณ์ เรื่องราวของการต่อสู้กับปัญหาทางจิตใจและความรู้สึกที่บอบช้ำทำให้ผู้ชมต้องคิดตามและรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ตัวละครประสบ

การแสดงของนักแสดงในเรื่องทำให้ภาพยนตร์มีความน่าสนใจและเข้าถึงอารมณ์ของผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง แม้ว่าเนื้อเรื่องจะมีความหนักหน่วง แต่ก็มีการสื่อสารความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

“The Son” อาจไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับทุกคน เนื่องจากมีเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักและอาจทำให้รู้สึกเศร้า แต่สำหรับผู้ที่ชอบภาพยนตร์ดราม่าที่มีความลึกซึ้งและต้องการสัมผัสกับเรื่องราวที่จริงจัง เรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ไม่ควรพลาด