The Theory of Everything ทฤษฎีรักนิรันดร
VIDEO
เรื่องย่อ : The Theory of Everything ทฤษฎีรักนิรันดร
ดูหนัง The Theory of Everything ทฤษฎีรักนิรันดร
บทนำ
The Theory of Everything หรือในชื่อไทยว่า ทฤษฎีรักนิรันดร เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากชีวิตจริงของนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในโลก นั่นคือ สตีเฟน ฮอว์กิง (Stephen Hawking) ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการเล่าถึงความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ของเขา แต่ยังเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความรักระหว่างเขากับ เจน วีลเดน ภรรยาของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทายจากโรคที่เขาต้องเผชิญ
นักแสดงในเรื่อง
- เอ็ดดี้ เรดเมย์น รับบท สตีเฟน ฮอว์กิง
- เฟลิซิตี้ โจนส์ รับบท เจน วีลเดน
- แฮร์รี่ มอว์น รับบท โรเจอร์
- เดวิด ทูลิส รับบท ไมเคิล
- อีฟ ชอว์ รับบท บาร์บาร่า
คะแนนจาก IMDB และ Rotten Tomatoes
ภาพยนตร์ The Theory of Everything ได้รับคะแนนจาก IMDB ที่ 7.7/10 และจาก Rotten Tomatoes อยู่ที่ 91% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จทั้งในด้านการแสดงและการเล่าเรื่องที่มีคุณภาพ
สรุปเนื้อเรื่อง
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 1963 เมื่อ สตีเฟน ฮอว์กิง นักศึกษาฟิสิกส์ที่มีความสามารถโดดเด่นได้พบกับ เจน วีลเดน หญิงสาวที่มีความมุ่งมั่นและอ่อนโยน ทั้งสองเริ่มต้นความรักที่สวยงาม แต่เมื่อ สตีเฟน ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis) ซึ่งมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวและการพูด จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความยากลำบากในชีวิตคู่ของเขาทั้งสอง
เจน ไม่เคยยอมแพ้และยืนเคียงข้าง สตีเฟน ในทุกๆ สถานการณ์ แม้จะมีความท้าทายมากมายที่เข้ามาในชีวิต ทั้งสองได้ต่อสู้เพื่อความรักและความฝันของ สตีเฟน ในการทำงานวิจัยด้านฟิสิกส์จักรวาล ซึ่งสุดท้ายเขาก็ได้สร้างทฤษฎีที่สำคัญเกี่ยวกับหลุมดำและการเริ่มต้นของจักรวาล
ภาพยนตร์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเล่าเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ แต่ยังเป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงความรัก ความมุ่งมั่น และการเสียสละของคนสองคนที่ต้องต่อสู้กับโชคชะตา ในขณะที่ สตีเฟน ค้นพบความลึกซึ้งของจักรวาล เขาก็ยังได้ค้นพบความหมายของชีวิตจาก เจน ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาในทุกๆ วัน
ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมจาก เอ็ดดี้ เรดเมย์น และ เฟลิซิตี้ โจนส์ ทำให้ภาพยนตร์นี้เป็นที่ชื่นชอบและได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลออสการ์สำหรับการแสดงนำชายยอดเยี่ยม
ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์
ทฤษฎีรักนิรันดรไม่ได้สอนให้เราเพียงแต่เห็นคุณค่าของความรัก แต่ยังช่วยให้เราเข้าใจว่าความรักที่แท้จริงนั้นสามารถทำให้เราผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราต้องเผชิญกับความยากลำบากในชีวิต